เทศกาลพ้อต่อ เมืองเก่าภูเก็ต 2025 – ศรัทธาแห่งบรรพชนและวัฒนธรรมชาวจีนโพ้นทะเล

เทศกาลพ้อต่อ เมืองเก่าภูเก็ต 2025

เทศกาลพ้อต่อ เมืองเก่าภูเก็ต 2025 (Por Tor Festival) ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับบรรพบุรุษในสังคมชาวจีนโพ้นทะเล โดยเฉพาะชุมชนบาบ๋าภูเก็ต (Peranakan Chinese) ที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ยุครุ่งเรืองของการทำเหมืองแร่ดีบุก เทศกาลนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็น “เทศกาลสารทจีนท้องถิ่น” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ใดในประเทศไทย

ประวัติความเป็นมา

เทศกาลพ้อต่อมีต้นกำเนิดจาก ความเชื่อของชาวจีนโบราณ ที่ถือว่าช่วงเดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน เป็นช่วงที่ “ประตูนรก” หรือ “โลกวิญญาณ” เปิดออก ดวงวิญญาณไร้ญาติหรือวิญญาณเร่ร่อนจะกลับมายังโลกมนุษย์เพื่อแสวงหาความคุ้มครองและอาหาร ผู้ที่ยังมีชีวิตจึงจัดพิธีเซ่นไหว้เพื่อแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และในขณะเดียวกันก็เป็นการทำบุญอุทิศให้วิญญาณไร้ญาติได้รับความร่มเย็น

คำว่า “พ้อต่อ” (普渡 – ผู่ตู้) มีความหมายว่า “การโปรดสัตว์” หรือ “การช่วยปลดปล่อย” แสดงให้เห็นถึงการทำบุญเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน พิธีนี้แพร่หลายในมณฑลฝูเจี้ยนและกวางตุ้ง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของชาวจีนฮกเกี้ยนจำนวนมากที่อพยพมาตั้งรกรากในภูเก็ตตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 – ต้นศตวรรษที่ 19

เมื่อแรงงานจีนเข้ามาทำเหมืองแร่ดีบุกในภูเก็ต พวกเขานำประเพณีนี้ติดตัวมาด้วย เพื่อรักษาความเชื่อและเชื่อมโยงครอบครัวเข้ากับบรรพบุรุษ แม้จะอยู่ห่างไกลแผ่นดินแม่ก็ตาม กาลเวลาผ่านไป เทศกาลพ้อต่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมภูเก็ตอย่างลึกซึ้ง และผสมผสานเข้ากับประเพณีไทยท้องถิ่น จนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่หาไม่ได้จากที่อื่น

การสืบทอดในภูเก็ต

  • ยุคแรกเริ่ม (ราว ค.ศ. 1825–1900): การจัดงานพ้อต่อเกิดขึ้นภายในครอบครัวชาวจีนฮกเกี้ยน ใช้เพียงโต๊ะไหว้และของเซ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ
  • ยุครุ่งเรืองเหมืองแร่ (ต้นศตวรรษที่ 20): ชุมชนเริ่มรวมตัวกันที่ศาลเจ้าท้องถิ่น เช่น ศาลเจ้าพ้อต่อกง และศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย ทำให้พิธีกรรมมีความยิ่งใหญ่ขึ้น
  • ยุคการท่องเที่ยว (ปลายศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบัน): เทศกาลพ้อต่อได้รับการโปรโมตให้เป็น สินทรัพย์ทางวัฒนธรรมของภูเก็ต จัดขบวนแห่และกิจกรรมทางการท่องเที่ยว จนกลายเป็นหนึ่งในงานเทศกาลสำคัญประจำปีที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติตั้งใจเดินทางมาร่วม

ความหมายเชิงสัญลักษณ์

  • ขนมเต่าแดง (อั่งกู๋): สัญลักษณ์แห่งอายุยืนและความมั่นคง
  • สีแดง: แทนความเป็นสิริมงคลและการปกป้องคุ้มครอง
  • การโปรดวิญญาณไร้ญาติ: สะท้อนคุณค่าของความเมตตาและการไม่ทอดทิ้งผู้ด้อยโอกาส
  • การรวมญาติ: เป็นเวลาที่ลูกหลานกลับมาพบหน้ากัน แสดงความกตัญญูต่อรากเหง้าของตน

สัญลักษณ์สำคัญ – ขนมเต่าแดง

ขนมเต่าแดง (อั่งกู๋) คือหัวใจของเทศกาลพ้อต่อ เต่าถือเป็นสัตว์มงคลในความเชื่อจีน หมายถึงอายุยืน ความมั่นคง และความโชคดี สีแดงเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ขนมเต่าแดงมักทำจากแป้งข้าวเหนียว สอดไส้ถั่วแดงหรือถั่วเขียว แล้วนึ่งจนหอมหวาน

ทุกปีชุมชนจะทำ “ขนมเต่าแดงยักษ์” หนักหลายร้อยกิโลกรัม เพื่อนำไปแห่รอบเมืองเก่าภูเก็ต โดยมีความเชื่อว่าจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่คนในชุมชน

พิธีกรรมและกิจกรรมที่น่าสนใจ

  1. การเซ่นไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ
    ตามศาลเจ้าใหญ่ เช่น ศาลเจ้าพ้อต่อกง และศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย จะเต็มไปด้วยโต๊ะเครื่องเซ่น ทั้งอาหาร ข้าว ผลไม้ และขนม
  2. การแห่ขนมเต่าแดง
    ไฮไลท์ของงานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงกลองจีน ธงสีสด และขบวนเชิดสิงโต
  3. ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน
    มีการแสดงดนตรีพื้นเมือง การขับร้องเพลงบาบ๋า และกิจกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็น “ภูเก็ต-จีน-ไทย”
  4. ตลาดวัฒนธรรมเมืองเก่า
    นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมย่านถนนถลางที่เต็มไปด้วยร้านค้า ขนมโบราณ และอาหารพื้นเมืองหาทานได้เฉพาะช่วงนี้ เช่น หมี่หุ้นแกงปู, โอวต้าว, และขนมบาบ๋าโบราณ

ความรู้เพิ่มเติม: มิติทางสังคมและวัฒนธรรม

  • มิติศาสนา: พ้อต่อสะท้อนความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายตามคติจีนผสมผสานกับศาสนาพุทธแบบมหายาน
  • มิติครอบครัว: เป็นช่วงเวลาที่คนในครอบครัวกลับมารวมตัว ร่วมแรงกันทำขนมและเตรียมของไหว้
  • มิติชุมชน: แสดงถึงความสามัคคี ชาวบ้านทุกวัยเข้าร่วมตั้งแต่การจัดโต๊ะไหว้จนถึงการแห่ขบวน
  • มิติท่องเที่ยว: ปัจจุบันเทศกาลพ้อต่อกลายเป็น soft power ด้านวัฒนธรรม ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวทะเลเพียงอย่างเดียว

เทศกาลพ้อต่อกับเมืองเก่าภูเก็ต

เทศกาลพ้อต่อไม่ได้เป็นเพียงงานประเพณีของชุมชนชาวจีนในภูเก็ตเท่านั้น แต่ยังผูกพันอย่างลึกซึ้งกับย่าน เมืองเก่าภูเก็ต (Phuket Old Town) ที่เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมโบราณ

ในช่วงเทศกาล ถนนสายสำคัญอย่าง ถนนถลาง ถนนดีบุก และถนนกระบี่ จะถูกประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง สัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ตัดกับอาคารแบบ ชิโน–โปรตุกีส อายุกว่าร้อยปีที่เรียงรายตลอดสองฝั่งถนน ทำให้ทั้งย่านเปลี่ยนบรรยากาศเป็นเวทีแห่งวัฒนธรรมที่ทั้งงดงามและมีชีวิตชีวา

บทบาทของเมืองเก่าในเทศกาล

  • หัวใจของพิธีกรรม: ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า เช่น ศาลเจ้าพ้อต่อกง และศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เป็นศูนย์กลางของพิธีเซ่นไหว้และการทำบุญให้บรรพบุรุษ
  • พื้นที่รวมชุมชน: ชาวบ้าน นักเรียน และนักท่องเที่ยวมารวมตัวกันเพื่อร่วมขบวนแห่ ขนมเต่าแดงยักษ์ ที่เป็นสัญลักษณ์หลักของเทศกาล
  • เวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม: นอกจากพิธีทางศาสนา ยังมีการแสดงพื้นบ้านและการละเล่นที่สะท้อนรากเหง้าของชุมชนบาบ๋าและจีนฮกเกี้ยน

เมืองเก่า: มรดกที่จับต้องได้และไม่ได้

ยูเนสโกยกให้ภูเก็ตเป็น เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร (UNESCO Creative City of Gastronomy) และเมืองเก่ายังถูกเสนอชื่อเป็นเขตมรดกทางวัฒนธรรม เทศกาลพ้อต่อช่วยตอกย้ำมรดกที่จับต้องไม่ได้ (intangible heritage) อย่างความเชื่อและพิธีกรรม ซึ่งผูกโยงกับมรดกที่จับต้องได้ (tangible heritage) อย่างสถาปัตยกรรม ตรอกซอย และศาลเจ้า

ความสำคัญต่อการท่องเที่ยว

การจัดงานในย่านเมืองเก่าไม่เพียงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้คนท้องถิ่น เพราะผู้มาเยือนจะได้เห็นทั้ง “ศรัทธา–อาหาร–สถาปัตยกรรม” ในบรรยากาศเดียวกัน ถือเป็น จุดขายด้านวัฒนธรรมที่แตกต่าง จากการท่องเที่ยวทะเลที่ภูเก็ตโด่งดังอยู่แล้ว

เคล็ดลับการท่องเที่ยวเทศกาลพ้อต่อ 2025

  • แต่งกายสุภาพและให้ความเคารพเมื่อเข้าศาลเจ้า
  • ลองลิ้มรสขนมเต่าแดงและอาหารบาบ๋าแท้ ๆ
  • เตรียมกล้องถ่ายรูป เพราะขบวนแห่และโคมไฟเป็นภาพหาดูได้ยาก
  • พักในย่านเมืองเก่าเพื่อสัมผัสบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืน

ตารางงานในปี (2025)

เทศกาลพ้อต่อ ภูเก็ต 2568 จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 4 – 21 กันยายน 2568

วันที่ 4 กันยายน 2568 เวลา 17:00 ที่บริเวณพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว (ถนนกระบี่)

วันที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 17:00 ที่จุดเดียวกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *